ปัญหาแบบนี้มีมาอยู่เรื่อยๆ และอาจจะมีอยู่ตลอดไป คนที่ถูกนำไปแอบอ้างมากที่สุดเป็นดาราคนมีชื่อเสียง คนธรรมดาก็ถูกนำไปแอบอ้างอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะคนที่มีศรัตรู คนหน้าตาดี และคนที่จะทำให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจได้
ลักษณะของการแอบอ้างเท่าที่พบ
1. คนที่มีศรัตรู มักจะถูกนำรูปไปสร้างความเกลียดชัง พูดจาเสียหาย นำไปคอมเม้นหยาบคาย นำไปแอดเพื่อนเพื่อใช้ด่าคนอื่นโดยเฉพาะ …หรือทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้เจ้าของภาพถูกเกลียดชัง
2. คนหน้าตาดี อาจจะถูกนำรูปโปรไฟล์ เพื่อไปใช้ในการหลอกลวง ทั้งหญิงและชายมีโอกาสโดนได้ เช่น รูปผู้ชาย อาจจะถูกนำไปใช้ล่อลวงหญิงสาว (ข่าว ใช้เฟสบุ๊คลวงเด็กหญิงไปข่มขืน ก็ยังมีให้เห็นอยู่)
3. คนที่จะทำให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจได้ เช่น หมอ อาจจะถูกนำไปแอบอ้างเพื่อขายยาและอาหารเสริมต่างๆ
4. คนที่อยู่เฉยๆ ก็ถูกนำไปแอบอ้างได้ครับ บางคนถูกนำรูปโปรไฟล์ไปพูดจาหมิ่นจนเข้าข่ายความผิดกฎหมายมาตรา 112
ปัญหาที่อาจตามมา
1. ถูกแจ้งความจับเสียเอง – เมื่อถูกนำไปแอบอ้าง เราไม่มีความผิดอยู่แล้ว หากเป็นเรื่องร้ายแรงอาจถูกแจ้งความจับดำเนินคดีก่อน และก็ต้องสู้คดีต่อไป
2. ถูกประจานแบบไม่มีโอกาสได้แก้ตัว – คนไทยหลายคน “เชื่อง่าย” ส่วนใหญ่ไม่ทันคิด เห็นแล้วแชร์เลย เช่น คำพูดแรงๆที่เข้าข่ายกฎหมายมาตรา 112 บางคนไม่ใช่ตัวจริง แต่ถูกนำรูปมาแอบอ้าง เพราะโทษมันแรง ไม่มีใครอยากจะซวยติดคุกหรอก …แม้ว่าเราจะไม่ผิด และไม่ถูกดำเนินคดี แต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อถูกนำรูปภาพกับคำพูดไปแชร์ต่อๆกัน จนคนอื่นเชื่อว่าเราทำสิ่งนั้นจริงๆ
แนวทางป้องกันและแก้ไข
ก่อนอื่น ให้เก็บหลักฐานไว้ก่อน จับภาพหน้าจอไว้ให้หมด แล้วจากนั้นก็…
1. ร้องเรียนระบบ
– สำหรับเจ้าตัว กดรายงานแล้วบอกว่าแอบอ้างเป็นตัวฉัน
– แล้วให้เพื่อนไปช่วยกด โดยบอกว่าแอบอ้างเป็นบุคคลที่ฉันรู้จัก แล้วพิมพ์ชื่อเพื่อนลงไป
เสร็จแล้วก็กดดำเนินงาน …แต่ไม่รับรองได้ว่า “โปรไฟล์ที่แอบอ้างจะถูกถอดออก” เรื่องแบบนี้มันกลั่นแกล้งกันได้ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ Facebook จะลบออกให้
2. แจ้งความ
ถ้าแจ้งความไปแล้ว ตำรวจจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหนนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของคดีด้วย ถ้ายังเป็นเรื่องเล็กๆ ก็ถือซะว่าได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน …เพราะเวลาโดนแจ้งความ จากการที่คนอื่นไม่รู้ว่าเราโดนแอบอ้าง อย่างน้อยมันก็เป็นหลักฐานว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์
ส่วนการเอาผิด กฎหมายพรบ.ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ใครที่แอบอ้างจนทำคนอื่นเสียหาย มีความผิดตามมาตรา 14 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และถ้าหากข้อความและรูปที่แอบอ้างนำไปโพสขึ้นเว็บไซท์ เราสารถแจ้งไปยังเว็บมาสเตอร์ให้ลบออกได้ แต่ถ้าเขาไม่เอาออก ก็อาจมีความผิดกฎหมายพรบ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 15 ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิด
3. บอกให้คนอื่นทราบ
ถ้าโดนแอบอ้าง เราต้องทำให้คนอื่นรู้ว่าเราโดน เช่น โพสบน facebook ให้เพื่อนตามไปกดรายงานเพื่อลบออก …และหากเป็นเรื่องร้ายแรง ก็วานให้เพื่อนกระจายข่าว เช่น แอบอ้างว่าเป็นหมอ เพื่อที่จะได้ขายยาเถื่อน ซึ่งในอนาคตก็ยังไม่รู้ว่าจะส่งผลเสียกับคนอื่นอย่างไร
สรุป
ถ้าโดนแอบอ้าง ผมแนะนำให้ทำตามสามขั้นตอนนี้ …แต่เรื่องกฎหมาย ต้องไปปรึกษาผู้รู้เกี่ยวกับ พรบ.คอมพิวเตอร์ 2550 อีกที ผมรู้แค่คร่าวๆ ถ้าเกิดปัญหาจริงๆ ต้องไปศึกษาเพิ่ม
เวลามีปัญหาอย่าปล่อยไว้ ยิ่งนานวันยิ่งเสียหาย …และอาจจะไม่ได้มีโอกาสได้แก้ตัว แม้เราจะไม่ใช่คนผิดก็ตาม